รีวิวเหยื่ออธรรม (Les Miserables)
วรรณกรรมเรื่อง ‘เหยื่ออธรรม’ งานเขียนของ Victor Hugo เล่าเรื่องราวผ่านชีวิตที่พลิกผันจากความอยุติธรรมเป็นความยุติธรรม ปัญหาทั้งหมดที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำในสังคม การต่อสู้ดิ้นรน ให้ผู้อ่านได้เข้าถึงอารมณ์ของความรัก ความเศร้า ความโกรธ ความเหลื่อมล้ำ ได้ผ่านทางวรรณกรรมเรื่องนี้ ที่จะเข้าใจคน ๆ หนึ่งมากขึ้นกว่าเดิม
ความเหลื่อมล้ำกับการต่อสู้ดิ้นรน
Les Miserables เล่าถึงเรื่องของการแหกคุกของ ฌอง วาลฌอง โดยที่เขาได้โดนจับเข้าคุกไปตั้งแต่ตอนเด็ก ด้วยเหตุผลเพราะว่าความหิวโหยมันบังคับเขาให้ต้องทำแบบนั้น เขาได้ขโมยขนมปังหนึ่งชิ้นเพื่อประทังชีวิตตัวเองอยู่รอดต่อได้ และไม่ปฎิเสธการที่จะถูกจับเพราะเขาไม่สามารถเลือกอะไรได้เลย และต่อมาเขาก็ได้ทำการแหกคุกและอาศัยปักหลักกินข้าว อาบน้ำ นอนที่วัด แต่ไม่นานเขาก็ได้ขโมยของวัดและหนีไปอยู่ดี และถูกตำรวจจับอีกรอบหนึ่ง และในทางกลับกันหลวงพ่อกลับไม่เอาผิดฌอง วาลฌองเลย
และได้บอกว่าตนเป็นคนให้ของทั้งหมดแก่ชายคนนี้ ไปเอง เหตุการณ์ตอนนี้ทำให้วาลฌองประทับใจ และกลับตน เป็นคนดีช่วยเหลือคนอื่นในเวลา ต่อมา เพราะคำพูดของหลวงพ่อ ที่กระซิบบอกแก่ เขาว่า “ อย่าลืมว่าท่าน ได้ให้สัญญา กับข้าพเจ้าว่า จะ ใช้เครื่องเงินนี้ เพื่อทำให้ท่าน เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ”
และหลายปีถัดมาเมื่อเขาได้โตขึ้น เขาก็ได้ไปอยู่ที่อื่นและกลับตัวกลับใจกลายเป็นคนดี จากที่ตอนแนกเขาเป็นคนไม่มีอะไรตอดตัวเลย เพียงแค่อาหารประทังชีวิตยังไม่มี แต่ใตตอนนี้เขากลับมีทุกอย่าง ทั้งหน้าตาทางสังคม เงินทอง ความรู้ การยอมรับ ต่าง ๆ จนเขาได้กลายเป็นนายกที่มครต่อใครรู้จักกันดี แต่โชคก็ไม่ได้เข้าข้างเขาขนาดนั้น เพราะมีอยู่วันหนึ่งก็ได้มีตำรวจที่เคยจับฌอง วาลฌอง ครั้งเมื่อที่เขาเคยขโมยแล้วแหกคุกออกมา นี่คือสิ่งที่ฌอง วาลฌอง กลัวมากที่สุดคือการที่สังคมได้รู้ความจริง ว่าเขาเคยแหกคุกมาก่อน และแน่นอนตำรวจนายนี่ก็พยายามที่จะจับฌอง วาลฌอง ให้ได้อีกรอบ พยายามหาหลักฐานและเอาผิด
เมื่อมีหลักฐานแน่ชัดว่า เขา คือนักโทษ ที่แหกคุกมา ตำรวจก็ตรงเข้า จะจับกุม แต่เหมือนว่าวาลฌองจะไหวตัวได้ก่อน จึงอาศัยช่วงจังหวะชุลมุนนี้หลบหนีนีบหลบหนีไปพร้อมกับโคเซ็ท(ลูกเลี้ยงของเขา) หนีไปยังปารีสและแอบลักลอบเข้าเมืองได้สำเร็จ โดยได้รับ ความช่วยเหลือจากแม่ชีในโบสถ์แห่งหนึ่ง เขาอยู่ เลี้ยงดูจนโคเซ็ทจนเธอเติบโตเป็นสาว โดยที่เธอไม่รู้เรื่องราวในอดีตของพ่อเลี้ยงตนเอง ต่อมาเขาตัดสินใจออกมาหาซื้อบ้านอยู่ เองด้วยเงินจำนวนมากที่เขาแอบเก็บไว้ตั้งแต่สมัยเขายังร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของโรงงาน
โคเซ็ทผู้อ่อนต่อโลกด้วยเพราะไม่เคยได้ออกไปเที่ยวนอกโบถส์มาก่อน เมื่อได้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกแล้วจึงได้พบรักกับมาริอุส หนึ่งในองค์กรนักศึกษาหัวรุนแรงผู้ต่อต้านระบบกษัตริย์ในฝรั่งเศสสมัยJune Revolution ปี 1832 และแน่นอนว่าฌอง วาลฌองก็พยายามกีดกั้นความรักของโคเซ็ทมนคนั้งนี้ เพราะไม่อยากให้ลูกเสรยใจ ถ้าเกิดว่าแหนหนุ่มของเขานั้นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะด้วยความที่เป็นหนี่งในองค์กรนักศึกษาหัวรุนแรงต่อต้านระบบกษัตริย์
และเหตุการณ์การปฎิวัติในเดือน กรกฏาคม ปึ ค.ศ.1832 เกิดการเผชิญหน้ากัน ระหว่าง ประชาชน ( กับทหารของรัฐบาลฝรั่งเศส พวกตำรวจมาติดตามพวกที่ก่อการกบฎ และเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ทำให้นายตำรวจชาแวร์ที่เคยจะจับฌอง วาลฌองในตอนเริ่มต้น ได้เจอกับฌอง วาลฌองอีกครั้งหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ และแน่น่อนว่าตำรวจนายนี้ต้องการที่ฌอง วาลฌองเป็นแน่ เพราะได้คลาดกันมาหลาบรอบแล้วเพราะฌอง วาลฌองหนีไปได้ก่อนในทุกครั้ง
แต่ไม่เสมอไป เพราะเหตุการณ์กับสลับกัน แทนที่ตำรวจจะได้จับฌอง วาลฌอง แต่กลายเป็นฌอง วาลฌองเองที่ได้จับตำรวจ และมีสิทธิ์ที่จะฆ่าตำรวจด้วยซ้ำเพราะด้วยอำนาจที่มากกว่า แต่เขาก็ไม่ได้ทำแต่กลับไปกลับปล่อยให้นายตำรวจชาแวร์หนีไป ชาแวร์จึงได้โอกาสและหันกลับมาจับฌอง วาลฌอง อีกตนั้งหนึ่ง ให้ได้สมความตั้งใจ
ชาแวร์คิดจะปฏิบัติตามหน้าที่ คิดจะสังหารวาลฌองในฐานะที่เป็นนักโทษแหกคุกมา แต่ในตอนนี้เขาก็กลับทำร้ายฌอง วาลฌองไม่ได้ เพราะด้วยความดีของฌอง วาลฌอง ที่เคยได้ปล่อยให้ตำรวจหนีออกมาและเลือกที่จะไม่ฆ่าเขาเสียตั้งแต่ตอนนั้น ทั้งที่มีโอกาส ดังนั้น ทางออกทางสุดท้ายของตำรวจชาแวร์ คือตัว เขาเองตัดสินใจกระโดดน้ำตาย เพราะเขาทำหน้าที่ของตนเองไม่สำเร็จ และเขาพ่ายแพ้ต่อความดีในจิตใจของวาลฌองนั่นเอง
หนึ่งมหากาพย์การต่อสู้ของมนุษย์ธรรมดา
เรื่องราวได้นำเสนอผ่านเหตุการณ์ของการปฏิวัติครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในโลก ที่เราจะได้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ และการต่อสู้ดิ้นรนในการใช้ชีวิตของคน ๆ นึง วรรณกรรมเรื่องนี้ถือว่าเป็นระดับมหากาพย์ของการต่อสู้ของมนุษย์ธรรมดาคนนึง ต่ออำนาจและปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเองหลายเท่า สังคมที่ดำรงด้วยกฎหมายชุดหนึ่งที่ได้ใช้กับผู้คนที่ไม่ได้รับแม้มนุษยธรรม และความดีของคนเราอาจดูได้ที่จิตใจ และเมื่อเวลาขับขันที่ทุกข์ยากลำบากจริง ๆ เราถึงจะมีโอกาสได้เห็นเนื้อแท้ของเขา
